อินโดนีเซีย….
ประวัติของประเทศอินโดนีเซีย
???
อินโดนีเซียประกอบด้วยหมู่เกาะที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน
แต่ต่อมาต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของเนเธอร์แลนด์อยู่ประมาณ 301 ปี ในเดือน มกราคม พ.ศ. 2485 ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่
2.1 ญี่ปุ่นบุกอินโดนีเซีย
และทำการขับไล่เนเธอร์แลนด์เจ้าอาณานิคมของอินโดนีเซียออกไปได้สำเร็จ
จึงทำให้ผู้นำอินโดนีเซียคนสำคัญในสมัยนั้นให้ความร่วมมือกับญี่ปุ่นแต่ไม่ได้ให้ความไว้วางใจกับญี่ปุ่นมากนัก
เพราะมีเหตุเคลือบแคลงคือ เมื่อผู้รักชาติอินโดนีเซียจัดตั้งขบวนการต่างๆขึ้นมา
ญี่ปุ่นจะขอเข้าร่วมควบคุมและดำเนินงานด้วย
เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามและประกาศยอมจำนนต่อฝ่ายพันธมิตร
อินโดนีเซียได้ถือโอกาสประกาศเอกราชใน พ.ศ. 2488 แต่เนเธอร์แลนด์เจ้าของอาณานิคมเดิมไม่ยอมรับการประกาศเอกราชของอินโดนีเซีย
จึงยกกองทัพเข้าปราบปราม
ผลจากการสู้รบปรากฏว่าเนเธอร์แลนด์ไม่สามารถปราบปรามกองทัพอินโดนีเซียได้
จากนั้นอังกฤษซึ่งเป็นพันธมิตรกับเนเธอร์แลนด์จึงเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยเพื่อให้ยุติความขัดแย้งกัน
โดยให้ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลงลิงกัดยาติ (Linggadjati Agreement) เมื่อ พ.ศ. 2489 โดยเนเธอร์แลนด์ยอมรับอำนาจรัฐของรัฐบาลอินโดนีเซียในเกาะชวาและสุมาตรา
ต่อมาภายหลังเนเธอร์แลนด์ได้ละเมิดข้อตกลงโดยได้นำทหารเข้าโจมตีอินโดนีเซียทำให้ประเทศอื่นๆ
เช่น ออสเตรเลีย และอินเดียได้ยื่นเรื่องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเข้าจัดการ
สหประชาชาติได้เข้าระงับข้อพิพาทโดยตั้งคณะกรรมการประกอบด้วย ออสเตรเลีย เบลเยียม
และสหรัฐอเมริกา เพื่อทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยประนีประนอมและได้เรียกร้องให้หยุดยิง
แต่เนเธอร์แลนด์ได้เข้าจับกุมผู้นำคนสำคัญของอินโดนีเซีย คือ
ซูการ์โนและฮัตตาไปกักขัง
ต่อมาทหารอินโดนีเซียสามารถช่วยเหลือนำตัวผู้นำทั้งสองออกมาได้
ในระยะนี้ทุกประเทศทั่วโลกต่างตำหนิการกระทำของเนเธอร์แลนด์อย่างยิ่งและคณะมนตรีความมั่นคงได้กดดันให้เนเธอร์แลนด์มอบเอกราชแก่อินโดนีเซีย
ลักษณะภูมิประเทศของอินโดนีเซีย………
อินโดนีเซีย : Indonesia หรือ ชื่อทางการคือ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย : Republik Indonesia เป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตั้งอยู่ระหว่างคาบสมุทรอินโดจีนและทวีปออสเตรเลีย และระหว่างมหาสมุทรอินเดียและแปซิฟิก มีพรมแดนติดกับประเทศมาเลเซียบนเกาะบอร์เนียว (อินโดนีเซีย:Kalimantan) , ประเทศปาปัวนิวกินีบนเกาะนิวกินี (อินโดนีเซีย: Irian) และ ประเทศติมอร์ตะวันออกบนเกาะติมอร์ (อินโดนีเซีย: Timor)
ประธานธิปดีของประเทศอินโดนีเซีย(คนปัจจุบัน)
พลโทซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน ( Susilo
Bambang Yudhoyono)
พลโทซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโน เป็นประธานาธิบดีอินโดนีเซียคนแรกที่ได้รับการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชนในปีพ.ศ. 2547 ภายหลังการปฏิรูปการเมืองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
ซึ่งมีการกำหนดให้มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงจากประชาชน โดยผู้ที่ได้เป็นประธานาธิบดีต้องได้เสียงมากกว่าร้อยละ
50 ของผู้ออกเสียง และหากไม่มีผู้ได้คะแนนเสียงเกินร้อยละ 50 ในการเลือกตั้งครั้งแรก
ให้มีการจัดการเลือกตั้งครั้งที่สอง โดยนำเฉพาะผู้ได้คะแนนเสียงอันดับที่ 1 และ 2 มาแข่งขันกันอีกครั้ง
ประธานาธิบดียูโดโยโน ได้รับชัยชนะเหนือนางเมกาวาตี ซูการ์โนบุตรีในการเลือกตั้งครั้งที่สอง
และเข้ามาดำรงตำแหน่งด้วยความคาดหวังอย่างมากจากประชาชน
ในการบริหารประเทศและพัฒนาเศรษฐกิจ
ในช่วงแรกอาจไม่ค่อยได้รับการยอมรับจากประชาชน
แต่เขาก็สามารถบริหารประเทศได้ดีขึ้นเป็นลำดับ และจัดการแก้ไขปัญหาต่างๆ
ได้เป็นอย่างดี เช่น การเจรจากับอาเจะห์จนเกิดสันติภาพ
และการดูแลความขัดแย้งระหว่างเผ่าพันธุ์ต่างๆ จนยุติความรุนแรง
รวมทั้งฟื้นฟูเศรษฐกิจของอินโดนีเซียให้มีความเข้มแข็ง เติบโตอย่างรวดเร็ว
จนเป็นหนึ่งในประเทศน่าลงทุนในปัจจุบัน ในการเลือกตั้งครั้งล่าสุด (พ.ศ. 2552) ประธานาธิบดียูโดโยโน
ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 2 ด้วยเสียงท่วมท้น
และเป็นผู้จุดคบเพลิงในซีเกมส์ครั้งที่26
อาหารประจำอาเซีย
ดอกไม้ ประจำชาติ อินโดนีเซีย
ประเทศอินโดนีเซีย
อินโดนีเซีย หรือชื่อทางการคือ
สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (อินโดนีเซีย:Republik
Indonesia)เป็นหมู่เกาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ตั้งอยู่ระหว่างคาบสมุทรเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และทวีปออสเตรเลีย
และระหว่างมหาสมุทรอินเดีย
และแปซิฟิกประเทศมาเลเซียบนเกาะบอร์เนียว
(อินโดนีเซีย:
กาลิมันตัน),
ประเทศปาปัวนิวกินีบนเกาะนิวกินี
(อินโดนีเซีย:
อิเรียน)
และ ประเทศติมอร์ตะวันออกบนเกาะติมอร์
มีพรมแดนติดกับ
ภูมิศาสตร์
ภูมิประเทศ
ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่ประกอบด้วยหมู่เกาะต่าง ๆ มีเกาะใหญ่น้อยเกือบ
18,000 เกาะ มีภูเขาสูงอยู่ตามเกาะต่าง ๆ โดยทั่วไปเทือกเขาที่มีความสูงมาก
ตามบริเวณเขามักมีภูเขาไฟและมีที่ราบรอบเทือกเขาชายเกาะมีความสูงใกล้เคียงกับระดับน้ำทะเลทำให้มีที่ราบบางแห่งเต็มไปด้วยหนอง
บึง ใช้ประโยชน์ไม่ได้
ภูมิอากาศ
ลักษณะอากาศแบบศูนย์สูตรมีฝนตกชุกตลอดปี แต่อุณหภูมิไม่สูงมากนัก (ประมาณ 24-30
องสาเซลเซียส) เพราะพื้นที่เป็นเกาะจึงได้รับอิทธิพลจากทะเลอย่างเต็มที่
ประชากร
จำนวนประชากร
: 231,328,092 คน
เชื้อชาติ
: เป็นชาวเกาะชวา 45% ชาวซุนดาน 14%, ชาวมาดูรีซ 7.5%,
ชาวมลายู 7.5% และอื่นๆ อีก 26%
ภาษา
: บาฮาซา อินโดนีเซีย
เป็นภาษาราชการ(แปลงมาจากมาษามลายู), ภาษาอังกฤษ, ดัทช์, ภาษาท้องถิ่น
ภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือภาษาชวา
ทรัพยากรและเศรษฐกิจ
ป่าไม้
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าดงดิบ เป็นประเทศที่มีป่าไม้มากที่สุด
ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผลิตผลจากป่าไม้ส่วนใหญ่เป็นไม้เนื้อแข็ง
แร่ธาตุ แร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียมทำรายได้ให้กับ
ประเทศมากที่สุด อินโดนีเซียเป็นสมาชิกขององค์การประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็น สินค้าออก
เกษตรกรรม มีการปลูกพืชแบบขั้นบันได พืชเศรษฐกิจ ได้แก่ข้าว ยาสูบ
ข้าวโพด เครื่องเทศ ประมง
ลักษณะภูมิประเทศเป็นหมู่เกาะทำใหอินโดนีเซียสามารถจับสัตว์น้ำได้มาก
อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การกลั่นน้ำมัน การต่อเรือ
เป็นต้น
การเมืองการปกครอง
ประเทศอินโดนีเซียมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ
มีประธานาธิบดีเป็นประมุขและทำหน้าที่ปกครองประเทศ
การแบ่งเขตการปกครอง
ปัจจุบันประเทศอินโดนีเซียแบ่งเขตการปกครองออกเป็น 30
จังหวัด (provinces - propinsi-propinsi) 2 เขตปกครองพิเศษ* (special
regions - daerah-daerah istimewa) และ 1
เขตนครหลวงพิเศษ** (special capital city district - daerah khusus
ibukota) โดยมีเมืองหลวงหรือเมืองหลักของแต่ละจังหวัด ได้แก่
ศาสนา
อิสลาม
: คือศาสนาที่คนส่วนใหญ่ในอินโดนีเซียนับถือ
ประชากรประมาณ 143 ล้านคน หรือ 86.9% ของชาวอินโดนีเซียนับถือศาสนาอิสลาม
ทำให้อินโดนีเซียเป็นประเทศมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก
คริสต์
:
ถึงแม้ศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิกและโปรเตสแตนท์จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในปี
1980 แต่ก็ยังมีจำนวนน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับศาสนาอิสลาม
ศาสนาคริสต์เข้ามาเผยแพร่ในมะลุกุส ทางตอนใต้ของสุลาเวสี และติมอร์ในศตวรรษที่ 16
โดยนักบวชชาวโปรตุเกส
ฮินดู
:
ชาวอินโดนีเซียบนเกาะบาหลีส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู
พุทธ
: มีผู้นับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนน้อยในอินโดนีเซีย
และส่วนใหญ่มีเชื้อสายจีน
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาที่สำคัญในอินโดนีเซียก่อนการมาถึงของอิสลาม
วัดบาราบุดูร์ในชวากลาง ที่เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
ก็เป็นวัดของชาวพุทธ
ความสัมพันธ์กับประเทศไทย
ประเทศไทยและอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์ทางการทูตที่ดีต่อกันมาโดยตลอด
และให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
อินโดนิเซียเป็นสมาชิกสมาคมอาเซียนเหมือนประเทศไทย
และมีสำนักงานใหญ่ขององค์การอาเซียนตั้งอยู่ที่กรุงจาการ์ตามีประชากรมาก
ประวัติศาสตร์
อินโดนีเซียประกอบด้วยหมู่เกาะที่มีความเจริญรุ่งเรืองมาช้านาน
แต่ต่อมาต้องตกอยู่ภายใต้การปกครองของเนเธอร์แลนด์อยู่นานประมาณ
300 ปี ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2485
ซึ่งเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่
2 ญี่ปุ่นบุก
อินโดนีเซีย และทำการขับไล่เนเธอร์แลนด์เจ้าอาณานิคมของอินโดนีเซียออกไปได้สำเร็จ
จึงทำให้ผู้นำอินโดนีเซียคนสำคัญ ๆ ในสมัยนั้นให้ความร่วมมือกับญี่ปุ่น
แต่ไม่ได้ให้ความไว้วางใจกับญี่ปุ่นมากนัก เพราะมีเหตุเคลือบแคลง คือ
เมื่อมีผู้รักชาติชาวอินโดนีเซียจัดตั้งขบวนการต่าง ๆ ขึ้นมา
ญี่ปุ่นจะขอเข้าร่วมควบคุมและดำเนินงานด้วย
เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงครามและประกาศยอมจำนนต่อฝ่ายพันธมิตร
อินโดนีเซียได้ถือโอกาสประกาศเอกราชในวันที่ 17
สิงหาคม พ.ศ. 2488
แต่เนเธอร์แลนด์เจ้าอาณานิคมเดิมไม่ยอมรับการประกาศเอกราชของอินโดนีเซีย
จึงยกกองทัพเข้าปราบปราม
ผลจากการสู้รบปรากฏว่าเนเธอร์แลนด์ไม่สามารถปราบปรามกองทัพของชาว อินโดนีเซียได้
อังกฤษซึ่งเป็นพันธมิตรกับเนเธอร์แลนด์จึงเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ย
เพื่อให้ยุติความขัดแย้งกัน โดยให้ทั้งสองฝ่ายลงนามในข้อตกลงลิงกัดยาติ
(Linggadjati Agreement) เมื่อ พ.ศ. 2489
โดยเนเธอร์แลนด์ยอมรับอำนาจของรัฐบาลอินโดนีเซียในเกาะชวาและสุมาตรา
ต่อมาภายหลัง เนเธอร์แลนด์ได้ละเมิดข้อตกลง โดยได้นำทหารเข้าโจมตีอินโดนีเซีย
ทำให้ประเทศอื่น ๆ เช่นออสเตรเลีย
และอินเดียได้ยื่นเรื่องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเข้าจัดการ
สหประชาชาติได้เข้าระงับข้อพิพาท โดยตั้งคณะกรรมการประกอบด้วย ออสเตรเลีย
เบลเยียม
และสหรัฐอเมริกา
เพื่อทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยประนีประนอม และได้เรียกร้องให้มีการหยุดยิง
แต่เนเธอร์แลนด์ได้เข้าจับกุมผู้นำคนสำคัญของอินโดนีเซีย คือ ซูการ์โนและฮัตตาไป
กักขัง ต่อมาทหารอินโดนีเซียนำตัวผู้นำทั้งสองออกมาได้
ในระยะนี้ทุกประเทศทั่วโลกต่างตำหนิการกระทำของเนเธอร์แลนด์อย่างยิ่ง
และคณะมนตรีความมั่นคงได้กดดันให้เนเธอร์แลนด์มอบเอกราชแก่อินโดนีเซีย
ในวันที่ 27
ธันวาคม พ.ศ. 2492
อินโดนีเซียได้รับเอกราช แต่ความยุ่งยากยังคงมีอยู่
เนื่องจากเนเธอร์แลนด์ไม่ยินยอมให้รวมดินแดนอิเรียนตะวันตกเข้ากับอินโดนีเซีย
ทั้งสองฝ่ายจึงต่างเตรียมการจะสู้รบกันอีก ผลที่สุด
เนเธอร์แลนด์ก็ยอมโอนอำนาจให้สหประชาชาติควบคมดูแลดินแดนอิเรียนตะวันตก
และให้ชาวอิเรียนตะวันตกแสดงประชามติว่าจะรวมกับอินโดนีเซียหรือไม่
ผลการออกเสียงประชามติ ปรากฏว่าชาวอิเรียนตะวันตกส่วนใหญ่ต้องการรวมกับอินโดนีเซีย
สหประชาชาติจึงโอนอิเรียนตะวันตกให้อยู่ในความปกครองของอินโดนีเซียเมื่อ
เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2506